วันพฤหัสบดีที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ศักยภาพการพัฒนาการให้สี ความเป็นไปได้ในการเพิ่มขึ้นของสารสีแดง และความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาของเอนไซม์ในแอปเปิลที่เพาะปลูกเพื่อการพาณิชย์และรุ่นลูก (F1)

Leave a Comment
ศักยภาพการพัฒนาการให้สี ความเป็นไปได้ในการเพิ่มขึ้นของสารสีแดง และความสามารถในการเกิดปฏิกิริยาของเอนไซม์ในแอปเปิลที่เพาะปลูกเพื่อการพาณิชย์และรุ่นลูก (F1)
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ แอปเปิ้ล

การควบคุมการผสมพันธุ์ของการปลูกแอปเปิลเพื่อการพาณิชย์ได้มีขึ้นในปี 1973-1979 และได้มีการพัฒนาการใช้สีในผลไม้ในรุ่น F1 ในช่วงปี 1989-1992 ส่วนการวิเคราะห์ทางด้านเคมีของรุ่น F1 มีขึ้นในปี 1993 การผสมข้ามสายพันธุ์ของผลไม้สีแดงทำให้เกิดรุ่นลูกที่มีสีน้อยกว่า ในขณะเดียวกันการผสมพันธุ์ของรุ่นที่ไม่มีสีแดงมีความถี่ของการเกิดผลสีแดงในรุ่น F1สูง ความเป็นไปได้ในการเพิ่มขึ้นของสีม่วงแดงในการปลูกเพื่อการพาณิชย์และรุ่นลูก F1 ของพืชชนิดนี้ มีความคล้ายคลึงกับ UDPกาแลกโตส นั่นคือ ความสามารถในการเกิดปฏิกิริยา flavonoid-3-o-glycosyltransferase (UFGalt) แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับปฏิกิริยา phenylalanine ammonia-lyase (PAL) และ chalcone synthase (CS) เมื่อผลผลิตล่าช้าออกไปและมีความเข้มของแสงที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้รุ่นสีเขียว (‘Indo’ and ‘White Winter Pearmain’) และรุ่นสีเหลือง (‘Golden Delicious’ and Guoshuai’) มีสีม่วงแดงมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นผลทำให้ผลไม้เป็นสีแดงอันเนื่องด้วยปฏิกิริยา UFGalt บนพื้นผิวของผลไม้ ส่วนในพืชรุ่น F1 ที่มีแถบสี พบว่ามีบริเวณที่เป็นสีม่วงแดงอันเนื่องมาจากปฏิกิริยา UFGalt ที่มากกว่าบริเวณข้างเคียงในผลไม้ลูกเดียวกัน ทั้งหมดนี้ การเพิ่มขึ้นของการเกิดสีม่วงแดงและปฏิกิริยา UFGalt นั้น มีความใกล้เคียงกันระหว่างรุ่นพ่อแม่และรุ่นลูกมาก

(r2=0.87,p=0.0001)  อย่างไรก็ตาม โดยเปรียบเทียบแล้ว การเกิดปฏิกิริยาที่สูงนั้นได้รับการตรวจสอบใน
ผิวของผลที่ไม่มีสีแดงและในผิวของผลไม้ที่ไม่มีพัฒนาการของสีแดงเช่นเดียวกัน    จากผลวิจัยที่ได้ชี้ให้เห็น
ว่าปฏิกิริยา UFGalt เป็นเอนไซม์หลักอย่างหนึ่งในการควบคุมการเกิดการสังเคราะห์สีม่วงแดงในช่วงการ
เจริญเติบโตของผล ในขณะที่ปฏิกิริยา PAL และ CS นั้นไม่ได้เป็นตัวควบคุมแต่อย่างใด





If You Enjoyed This, Take 5 Seconds To Share It

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น